ประโยชน์ทางด้านการเกษตร
– ทำให้เกิดพืชที่ให้ผลผลิตมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ผลมีขนาดใหญ่ขึ้น ผลมีปริมาณมากขึ้น หรือ ผลมีน้ำหนักมากขึ้น
– ทำให้เกิดพืชที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม ทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ตัวอย่างเช่น พืชที่ทนแล้ง พืชที่ทนต่อดินเค็ม หรือ พืชที่ทนต่อดินเปรี้ยว เป็นต้น
– ทำให้เกิดพืชที่ทนต่อศัตรูพืช เช่น พืชที่ทนต่อเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคพืช พืชที่ทนต่อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคพืช ทนต่อแมลงศัตรูพืช หรือ ทนต่อยาฆ่าแมลง
– ทำให้เกิดพืชที่มีผลผลิตที่สามารถเก็บรักษาเป็นเวลานาน สามารถขนส่งในระยะไกลโดยไม่เน่าหรือเสีย
ประโยชน์ต่อผู้บริโภค
– พืช ผัก ผลไม้ เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ เช่น มะเขือเทศมีวิตามินอีมากขึ้น ส้มหรือมะนาวที่มีวิตามินซีมากขึ้น เป็นต้น
– ลดการขาดแคลนอาหารได้ เนื่องจากการปรับปรุงพันธุ์ให้มีผลผลิตและความต้านทานต่างๆมากขึ้น
ประโยชน์ด้านการพาณิชย์
– ลดขั้นตอนและระยะเวลาของการผสมพันธุ์พืช
– ทำให้เกิดพืชพันธุ์ใหม่ๆ พวกไม้ประดับที่มีรูปร่างแปลกกว่าเดิม มีขนาดใหญ่กว่าเดิม สีแปลกไปจากเดิม และสวยงามกว่าเดิม
ประโยชน์ต่อด้านการอุตสาหกรรม
– พืช GMOs ลดการใช้สารเคมี และช่วยให้มีผลผลิตมากขึ้นกว่าเดิม
– มี GMOs หลายชนิดที่ไม่ใช่พืช ที่ใช้กันอยู่ในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น เอนไซม์ที่ใช้ในการผลิตน้ำผักผลไม้ หรือ เอนไซม์ ไคโมซิน (Chymosin) ที่ใช้ในการผลิตเนยแข็งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จาก
ประโยชน์ต่อด้านการแพทย์
– การผลิตวัคซีน หรือยาชนิดต่างๆ ในอุตสาหกรรมยาปัจจุบันนี้ใช้ GMOs ช่วย
– ช่วยลดการขาดแคลนยาหรือวัคซีนได้มากขึ้น เพราะ GMOs สามารถช่วยเพิ่มการผลิตสิ่งเหล่านี้ให้เพิ่มขึ้นได้
ประโยชน์ต่อด้านสิ่งแวดล้อม
– พืช GMOs ป้องกันศัตรูพืชได้เอง สารเคมีชนิดต่างๆสำหรับปราบศัตรูพืชก็จะลดน้อยลง ทำให้มลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากสารเคมีลดลง